ปัญหาต่อมลูกหมากกับสารพิษของนักกอล์ฟ
การมีชีวิตทั้งกายและใจที่ดี กายคือการมีสุขภาพที่ดี
และใจย่อมต้องมีจิตใจที่ดีพร้อมต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ดังเช่น
วิศวกรที่เข้าสู่วัย 64 ผู้นี้
เป็นบุคคลที่คนในวัยเดียวกันอิจฉาเพราะการเป็นคนอารมณ์ขัน
และการมองโลกไปในทิศทางสร้างสรรค์ ทำให้วิศวกรหนุ่ม (ตอนปลาย)
ผู้นี้มองเรื่องการเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดาที่เป็นของคู่กันกับมนุษย์
คุณธุรนัย เจ็บป่วยในวัยใกล้เกษียณคือต้องผ่าตัดหลังถึงสองครั้ง เนื่องจากกระดูกทับเส้น บวกกับการเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพของตัวเองอย่างมาก ก็มักจะหมั่นไปตรวจสุขภาพประจำปีไม่ได้ขาด แต่ดูเหมือนการตรวจครั้งนั้นกลับเพิ่มโรคมาอีกโรคหนึ่งนั่นคือ โรคเบาหวาน
ผลการตรวจเลือดพบว่าน้ำตาลในเลือดสูงถึง 140 (ขณะที่คนปกติมีค่าน้ำตาลระหว่าง 80-100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) เป็นผลให้ต้องกินยาควบคุมน้ำตาล และต้องกลับไปตรวจทุกเดือน นอกจากนี้ภรรยาของคุณธุรนัยยังป่วยเป็นโรคยอดฮิตอย่างโรคภูมิแพ้ซึ่งจะมี อาการเป็นหวัดคัดจมูก และจามอยู่บ่อยๆ อีกทั้งยังหายใจไม่ออกเป็นประจำจนบางครั้งต้องหายใจทางปาก และต้องพาส่งโรงพยาบาลกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเพื่อพ่นยาขยายหลอดลม
กระทั่งปี พ.ศ.2553 ภรรยาของคุณธุรนัยเดินทางไปทำบุญที่ต่างจังหวัด และมีโอกาสได้เจอกับลูกน้องเก่าที่เคยร่วมงานกัน เมื่อเห็นจากอาการจามถี่ๆ จึงแนะนำให้รู้จักกับน้ำปรับโมเลกุล (MRET) พร้อมกับส่งเอกสารและรายละเอียดต่างๆ มาให้ศึกษาเป็นข้อมูลเบื้องต้น ทั้งสองสามีภรรยาต่างหาข้อมูลที่เกี่ยวกับน้ำปรับโมเลกุล(MRET) อย่างเอาจริงเอาจังโดยเฉพาะผู้เป็นสามีเช่นคุณธุรนัย
จนกระทั่งเดือนมีนาคม ปี พ.ศ.2554 ทั้งคู่จึงมีโอกาสเข้าร่วมงานสัมมนาในโอกาสที่ท่านเจ้าคุณอลงกตได้นำตัวอย่างของผู้ป่วยที่ดื่มน้ำปรับโมเลกุล (MRET) จากวัดพระบาทน้ำพุมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
“วันนั้นในงานเขามีให้ร่วมบริจาคเครื่องปรับโมเลกุลน้ำ(MRET) ด้วยการซื้อหนึ่งเครื่องบริจาคให้วัดอีกหนึ่งเครื่อง ภรรยาผมไม่รอช้าจึงตัดสินใจซื้อเครื่องทันที ครั้งแรกที่ผมได้ดื่มมีอาการง่วงมาก นั่งดูทีวีอยู่ดีๆ หลับคาทีวี อาการเช่นนี้เป็นอยู่ 4-5 วัน และยังถ่ายเหลว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอาการง่วงหายไป ร่างกายค่อยๆ ปรับสภาพตัวเอง การถ่ายเหลวยังมีอยู่แต่น้อยลง”
“ก่อนหน้านี้ผมยังมีปัญหาในตอนกลางคืนค่อนข้างมาก หลับๆ ตื่นๆ อยู่เป็นประจำเพราะมีอาการของต่อมลูกหมากโต เริ่มจากปัสสาวะไม่ค่อยออก ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ไม่พุ่ง และยังไม่สามารถอั้นปัสสาวะได้ เวลากลางคืนผมต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง จนต้องไปหา หมอและนำยากลับมากินที่บ้าน อาการก็ค่อยดีขึ้นแต่ก็ยังต้องลุกมาตอนดึกๆ อยู่ดี”
“หลังจากได้ดื่มน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ผ่านไปหนึ่งเดือนการนอนหลับของผมดีขึ้น หลับเร็ว หลับลึก หลับยาว ระยะหลังไม่ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนดึกอีก แต่ก็มีนานๆ ครั้ง”
“ครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 กรกฎาคม 2554 หลังจากดื่มน้ำปรับโมเลกุล (MRET) มาได้ 4 เดือน น้ำตาลในเลือด ลดลงจากเดิม 140 เหลือ 118 ยาที่เคยกิน 2 ตัวก็ลดลงเหลือ 1 ตัว”
“ภรรยาที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ ไม่ต้องพ่นยาเพื่อขยายหลอดลมอีกแล้ว เขาดูกระฉับกระเฉงมากขึ้น นอนหลับสบาย สดชื่นขึ้นมาก”
สามีภรรยาคู่นี้ยังเป็นคู่ที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำด้วยการตีกอล์ฟ ออกรอบอาทิตย์ละหนึ่งถึงสองครั้ง การออกกำลังกายน่าจะดีสำหรับคนทั้งคู่แต่กลับต้องเจอะเจอกับความเจ็บป่วย รูปแบบใหม่
“หญ้าที่ปูในสนามกอล์ฟที่เห็นเขียวขจีนั้นเขาต้องฉีดสารเคมีจำพวกยาฆ่า แมลงเพื่อที่จะบำรุงหญ้า ฉะนั้นก็จะมีโอกาสได้รับสารเคมีในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ลูกกอล์ฟที่ตีแล้วตกพื้นสัมผัสหญ้า มือที่หยิบลูกกอล์ฟเอาไปตี มือที่จับไม้กอล์ฟเพื่อตีลูก มือที่หยิบเอาผ้ามาซับเหงื่อ สารเคมีจึงสามารถเข้าได้ทุกขั้นตอน มีอยู่วันหนึ่งเหงื่อไหลเข้าตาแล้วคัน ผมจึงเอาหลังมือขยี้เปลือกตาแล้วเอาผ้าซับเหงื่อออก รุ่งขึ้นตื่นมามีขี้ตาที่ตาซ้าย วันที่สองก็มีขี้ตาเหมือนเดิมแต่เริ่มคัน มีปุ่มเล็กๆ บนเปลือกตาบน และเริ่มใช้ยาล้างตาทั้งเช้าและเย็น”
“วันต่อมาก็มีปุ่มแดงโตขึ้นมาอีก และเป็นอยู่หลายวันก็ไม่หายจึงต้องไปหาหมอปรากฏว่าเป็นตากุ้งยิง หมอแนะนำให้ผ่าเอาเชื้อออกเพราะหมอบอกว่าผมมีเชื้อมาแต่เดิม ยามที่ตาสกปรกก็ จะกลับมาเป็นอีก หากผ่าแล้วก็จะไม่เป็นอีกจึงตัดสินใจผ่า”
“ผ่าแล้วอีกหนึ่งเดือนก็กลับเป็นอีก คราวนี้ปุ่มแดงๆ เริ่มสุกและมีหนองต้องผ่าอีก”
“ครั้งต่อมาสามอาทิตย์ผ่านไปกลับเป็นที่ตาขวาอีกข้างหนึ่ง แต่คราวนี้ผมยังไม่กลับไปหาหมอ ลองเอาน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ที่ทำเสร็จใหม่ๆ ใส่ถ้วยล้างตาแล้วกรอกตาในน้ำครึ่งนาที แสบตานิดหน่อย นำมาล้างตาเช้า กลางวัน เย็น ทำได้ 3 วัน ตาที่เป็นกุ้งยิงก็ค่อยๆ ยุบหายไป”
ไม่เพียงอาการตากุ้งยิงที่เกิดจากสนามกอล์ฟเท่านั้น คุณธุรนัยยังต้องเจอกับอาการคันตามตัวอยู่เป็นประจำ สาเหตุมาจากสนามกอล์ฟที่ตีเป็นประจำนั้นทุกครั้งที่เล่นกอล์ฟจะต้องทำการอาบ น้ำชำระคราบเหงื่อไคลที่คลับเฮ้าท์ก่อนกลับบ้านทุกครั้ง
“น้ำที่ทางสนามจัดเตรียมไว้ส่วนใหญ่เป็นน้ำบาดาล ไม่ได้นำมาบำบัดดีนัก พอกลับถึงบ้านผมจะรู้สึกคันเนื้อคันตัวอยู่บ่อยๆ ต้องอาบน้ำที่บ้านซ้ำจึงค่อยยังชั่ว จึงนำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) มาอาบน้ำ และสระผมโดยจะใช้น้ำปรับโมเลกุล (MRET) ราดหัวให้ชุ่มก่อนจึงค่อยสระผมและนำมาราดในครั้งสุดท้ายอีก ครั้งหลังจากสระผมเสร็จ และใช้อาบน้ำในตอนอาบน้ำเสร็จเป็นน้ำสุดท้ายเหมือนกัน”
“ตอนใช้อาบน้ำวันแรกๆ ลองเอามือลูบดูรู้สึกทันทีว่าผิวลื่นขึ้น ใช้ติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์เม็ดผดผื่นคันและสิวที่หลังเริ่มลดลง หลังจากใช้หนึ่งเดือนสิวหายไปหมด”
“อีกเรื่องคือเรื่องเล็บขบ ผมมักเป็นที่นิ้วโป้ง และชอบแคะอยู่เป็นประจำจนเป็นแผล ยิ่งผมเป็นเบาหวานอยู่ด้วยจึงทำให้แผลนั้นยิ่งหายยาก จึงลองเอาเท้ามาแช่น้ำปรับโมเลกุล (MRET) ดู ปรากฏว่าแผลหายเร็ว เดินสบาย และไม่ต้องหยอดยาอีก”
เมื่อคุณธุรนัยและภรรยาได้นำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) มาดื่ม และพอใจในผลของสุขภาพที่เกิดขึ้น ทั้งคู่จึงเริ่มเป็นครอบครัวเอ็มเร็ท (MRET) โดยแบ่งปันให้กับคนรอบตัว ด้วยการนำไปให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าต้องเข้านอกออกในโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น
“ผมนำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ไปให้ท่านลองดื่ม ต่อมาอาการท่านดีขึ้นมาก หน้าตาสดใสไม่อมโรคเหมือนก่อน ผมจึงแนะนำว่าให้ท่านทั้งดื่ม ล้างหน้า และนำไปอาบน้ำด้วย”
“แนะนำให้น้องสองครอบครัวไปซื้อคนละเครื่อง น้องคนหนึ่งทำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ให้กับแม่ดื่ม ทำให้อาการท้องผูกหลังจากผ่าตัดลำไส้ของท่านหายไป ถ่ายสบายขึ้น ส่วนอีกครอบครัวที่ซื้อไปใช้ ก็แฮปปี้กันถ้วนหน้า”
ผู้เล่าเรื่อง ธุรนัย รังษีเทพปฏิมา
อาชีพ วิศวกร
เรื่องราวที่แบ่งปัน ปัญหาต่อมลูกหมากกับสารพิษของนักกอล์ฟ
คุณธุรนัย เจ็บป่วยในวัยใกล้เกษียณคือต้องผ่าตัดหลังถึงสองครั้ง เนื่องจากกระดูกทับเส้น บวกกับการเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพของตัวเองอย่างมาก ก็มักจะหมั่นไปตรวจสุขภาพประจำปีไม่ได้ขาด แต่ดูเหมือนการตรวจครั้งนั้นกลับเพิ่มโรคมาอีกโรคหนึ่งนั่นคือ โรคเบาหวาน
ผลการตรวจเลือดพบว่าน้ำตาลในเลือดสูงถึง 140 (ขณะที่คนปกติมีค่าน้ำตาลระหว่าง 80-100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) เป็นผลให้ต้องกินยาควบคุมน้ำตาล และต้องกลับไปตรวจทุกเดือน นอกจากนี้ภรรยาของคุณธุรนัยยังป่วยเป็นโรคยอดฮิตอย่างโรคภูมิแพ้ซึ่งจะมี อาการเป็นหวัดคัดจมูก และจามอยู่บ่อยๆ อีกทั้งยังหายใจไม่ออกเป็นประจำจนบางครั้งต้องหายใจทางปาก และต้องพาส่งโรงพยาบาลกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเพื่อพ่นยาขยายหลอดลม
กระทั่งปี พ.ศ.2553 ภรรยาของคุณธุรนัยเดินทางไปทำบุญที่ต่างจังหวัด และมีโอกาสได้เจอกับลูกน้องเก่าที่เคยร่วมงานกัน เมื่อเห็นจากอาการจามถี่ๆ จึงแนะนำให้รู้จักกับน้ำปรับโมเลกุล (MRET) พร้อมกับส่งเอกสารและรายละเอียดต่างๆ มาให้ศึกษาเป็นข้อมูลเบื้องต้น ทั้งสองสามีภรรยาต่างหาข้อมูลที่เกี่ยวกับน้ำปรับโมเลกุล(MRET) อย่างเอาจริงเอาจังโดยเฉพาะผู้เป็นสามีเช่นคุณธุรนัย
จนกระทั่งเดือนมีนาคม ปี พ.ศ.2554 ทั้งคู่จึงมีโอกาสเข้าร่วมงานสัมมนาในโอกาสที่ท่านเจ้าคุณอลงกตได้นำตัวอย่างของผู้ป่วยที่ดื่มน้ำปรับโมเลกุล (MRET) จากวัดพระบาทน้ำพุมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
“วันนั้นในงานเขามีให้ร่วมบริจาคเครื่องปรับโมเลกุลน้ำ(MRET) ด้วยการซื้อหนึ่งเครื่องบริจาคให้วัดอีกหนึ่งเครื่อง ภรรยาผมไม่รอช้าจึงตัดสินใจซื้อเครื่องทันที ครั้งแรกที่ผมได้ดื่มมีอาการง่วงมาก นั่งดูทีวีอยู่ดีๆ หลับคาทีวี อาการเช่นนี้เป็นอยู่ 4-5 วัน และยังถ่ายเหลว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอาการง่วงหายไป ร่างกายค่อยๆ ปรับสภาพตัวเอง การถ่ายเหลวยังมีอยู่แต่น้อยลง”
“ก่อนหน้านี้ผมยังมีปัญหาในตอนกลางคืนค่อนข้างมาก หลับๆ ตื่นๆ อยู่เป็นประจำเพราะมีอาการของต่อมลูกหมากโต เริ่มจากปัสสาวะไม่ค่อยออก ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ไม่พุ่ง และยังไม่สามารถอั้นปัสสาวะได้ เวลากลางคืนผมต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง จนต้องไปหา หมอและนำยากลับมากินที่บ้าน อาการก็ค่อยดีขึ้นแต่ก็ยังต้องลุกมาตอนดึกๆ อยู่ดี”
“หลังจากได้ดื่มน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ผ่านไปหนึ่งเดือนการนอนหลับของผมดีขึ้น หลับเร็ว หลับลึก หลับยาว ระยะหลังไม่ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนดึกอีก แต่ก็มีนานๆ ครั้ง”
“ครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 กรกฎาคม 2554 หลังจากดื่มน้ำปรับโมเลกุล (MRET) มาได้ 4 เดือน น้ำตาลในเลือด ลดลงจากเดิม 140 เหลือ 118 ยาที่เคยกิน 2 ตัวก็ลดลงเหลือ 1 ตัว”
“ภรรยาที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ ไม่ต้องพ่นยาเพื่อขยายหลอดลมอีกแล้ว เขาดูกระฉับกระเฉงมากขึ้น นอนหลับสบาย สดชื่นขึ้นมาก”
สามีภรรยาคู่นี้ยังเป็นคู่ที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำด้วยการตีกอล์ฟ ออกรอบอาทิตย์ละหนึ่งถึงสองครั้ง การออกกำลังกายน่าจะดีสำหรับคนทั้งคู่แต่กลับต้องเจอะเจอกับความเจ็บป่วย รูปแบบใหม่
“หญ้าที่ปูในสนามกอล์ฟที่เห็นเขียวขจีนั้นเขาต้องฉีดสารเคมีจำพวกยาฆ่า แมลงเพื่อที่จะบำรุงหญ้า ฉะนั้นก็จะมีโอกาสได้รับสารเคมีในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ลูกกอล์ฟที่ตีแล้วตกพื้นสัมผัสหญ้า มือที่หยิบลูกกอล์ฟเอาไปตี มือที่จับไม้กอล์ฟเพื่อตีลูก มือที่หยิบเอาผ้ามาซับเหงื่อ สารเคมีจึงสามารถเข้าได้ทุกขั้นตอน มีอยู่วันหนึ่งเหงื่อไหลเข้าตาแล้วคัน ผมจึงเอาหลังมือขยี้เปลือกตาแล้วเอาผ้าซับเหงื่อออก รุ่งขึ้นตื่นมามีขี้ตาที่ตาซ้าย วันที่สองก็มีขี้ตาเหมือนเดิมแต่เริ่มคัน มีปุ่มเล็กๆ บนเปลือกตาบน และเริ่มใช้ยาล้างตาทั้งเช้าและเย็น”
“วันต่อมาก็มีปุ่มแดงโตขึ้นมาอีก และเป็นอยู่หลายวันก็ไม่หายจึงต้องไปหาหมอปรากฏว่าเป็นตากุ้งยิง หมอแนะนำให้ผ่าเอาเชื้อออกเพราะหมอบอกว่าผมมีเชื้อมาแต่เดิม ยามที่ตาสกปรกก็ จะกลับมาเป็นอีก หากผ่าแล้วก็จะไม่เป็นอีกจึงตัดสินใจผ่า”
“ผ่าแล้วอีกหนึ่งเดือนก็กลับเป็นอีก คราวนี้ปุ่มแดงๆ เริ่มสุกและมีหนองต้องผ่าอีก”
“ครั้งต่อมาสามอาทิตย์ผ่านไปกลับเป็นที่ตาขวาอีกข้างหนึ่ง แต่คราวนี้ผมยังไม่กลับไปหาหมอ ลองเอาน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ที่ทำเสร็จใหม่ๆ ใส่ถ้วยล้างตาแล้วกรอกตาในน้ำครึ่งนาที แสบตานิดหน่อย นำมาล้างตาเช้า กลางวัน เย็น ทำได้ 3 วัน ตาที่เป็นกุ้งยิงก็ค่อยๆ ยุบหายไป”
ไม่เพียงอาการตากุ้งยิงที่เกิดจากสนามกอล์ฟเท่านั้น คุณธุรนัยยังต้องเจอกับอาการคันตามตัวอยู่เป็นประจำ สาเหตุมาจากสนามกอล์ฟที่ตีเป็นประจำนั้นทุกครั้งที่เล่นกอล์ฟจะต้องทำการอาบ น้ำชำระคราบเหงื่อไคลที่คลับเฮ้าท์ก่อนกลับบ้านทุกครั้ง
“น้ำที่ทางสนามจัดเตรียมไว้ส่วนใหญ่เป็นน้ำบาดาล ไม่ได้นำมาบำบัดดีนัก พอกลับถึงบ้านผมจะรู้สึกคันเนื้อคันตัวอยู่บ่อยๆ ต้องอาบน้ำที่บ้านซ้ำจึงค่อยยังชั่ว จึงนำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) มาอาบน้ำ และสระผมโดยจะใช้น้ำปรับโมเลกุล (MRET) ราดหัวให้ชุ่มก่อนจึงค่อยสระผมและนำมาราดในครั้งสุดท้ายอีก ครั้งหลังจากสระผมเสร็จ และใช้อาบน้ำในตอนอาบน้ำเสร็จเป็นน้ำสุดท้ายเหมือนกัน”
“ตอนใช้อาบน้ำวันแรกๆ ลองเอามือลูบดูรู้สึกทันทีว่าผิวลื่นขึ้น ใช้ติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์เม็ดผดผื่นคันและสิวที่หลังเริ่มลดลง หลังจากใช้หนึ่งเดือนสิวหายไปหมด”
“อีกเรื่องคือเรื่องเล็บขบ ผมมักเป็นที่นิ้วโป้ง และชอบแคะอยู่เป็นประจำจนเป็นแผล ยิ่งผมเป็นเบาหวานอยู่ด้วยจึงทำให้แผลนั้นยิ่งหายยาก จึงลองเอาเท้ามาแช่น้ำปรับโมเลกุล (MRET) ดู ปรากฏว่าแผลหายเร็ว เดินสบาย และไม่ต้องหยอดยาอีก”
เมื่อคุณธุรนัยและภรรยาได้นำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) มาดื่ม และพอใจในผลของสุขภาพที่เกิดขึ้น ทั้งคู่จึงเริ่มเป็นครอบครัวเอ็มเร็ท (MRET) โดยแบ่งปันให้กับคนรอบตัว ด้วยการนำไปให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าต้องเข้านอกออกในโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น
“ผมนำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ไปให้ท่านลองดื่ม ต่อมาอาการท่านดีขึ้นมาก หน้าตาสดใสไม่อมโรคเหมือนก่อน ผมจึงแนะนำว่าให้ท่านทั้งดื่ม ล้างหน้า และนำไปอาบน้ำด้วย”
“แนะนำให้น้องสองครอบครัวไปซื้อคนละเครื่อง น้องคนหนึ่งทำน้ำปรับโมเลกุล (MRET) ให้กับแม่ดื่ม ทำให้อาการท้องผูกหลังจากผ่าตัดลำไส้ของท่านหายไป ถ่ายสบายขึ้น ส่วนอีกครอบครัวที่ซื้อไปใช้ ก็แฮปปี้กันถ้วนหน้า”
ผู้เล่าเรื่อง ธุรนัย รังษีเทพปฏิมา
อาชีพ วิศวกร
เรื่องราวที่แบ่งปัน ปัญหาต่อมลูกหมากกับสารพิษของนักกอล์ฟ