วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

ป้องกันโรคหัวใจง่ายนิดเดียว


ป้องกันโรคหัวใจง่ายนิดเดียว
โรคหัวใจเป็นอีกโรคหนึ่งที่คร่าชีวิตมนุษย์ไปอย่างหลากหลาย โดยโรคหัวใจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกันไม่ว่าจะเป็น การสูบบุหรี่มากจนเกินไป ความเครียดรวมไปจนถึงโรคหัวใจที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันเป็นต้น ดังนั้นถ้าเราไม่ต้องการที่จะเสี่ยงชีวิต ด้วยโรคร้ายเหล่านี้จึงควรที่จะปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้ ซึ่งเป็นการแนะนำมาจากสมาคมโรคหัวใจที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ทำการสำรวจผู้หญิงอเมริกันกว่า 460,000 คนที่พบว่าเข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคหัวใจรูปแบบต่าง ๆ
- ความอ้วน แน่นอนว่าความอ้วนคือปัญหาหลักที่จะก่อให้เกิดหลาย ๆ โรคไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน , เบาหวาน รวมไปจนถึงโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นต้น

- ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นวิธีการที่ดีที่สุดเพราะการออกกำลังกายคือการสร้าง พลังงานให้ร่างกายมีความแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดสูบฉีดและส่งผลให้หัวใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นมันจึงจะส่งผลให้ร่างกายของเรามีโอกาสเป็นโรคหัวใจได้ช้าขึ้นนั่นเอง

- กินพริกและลดเค็ม สามารถที่จะลดโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงได้

- หลักเลี่ยงไขมันไร้ประโยชน์ ปัจจุบันเรารับประทานไขมันจากเนื้อสัตว์ที่มาจากรูปแบบต่าง ๆ แต่ถ้าหากเราทานมากจนเกินไปมันก็จะก่อให้เกิดไขมันอิ่มตัว และอาจจะส่งผลให้เกิดโรคหัวใจได้เช่นกัน

- ผักและผลไม้ แน่นอนว่าผักและผลไม้เป็นอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายได้มากที่สุด เพราะมาจากธรรมชาติพร้อมกับมีสารอาหารที่มากมายทั้ง วิตามินต่าง ๆ สารสังกะสีและอื่น ๆ อีกมากมายที่จะเป็นตัวช่วยในการต่อต้านโรคหัวใจได้ดี

- รับประทานไขมันที่มีคุณภาพ ไขมันคุณภาพส่วนมากจะเป็นไขมันที่มาจากปลาทะเลเสียส่วนใหญ่ และไขมันจากปลามักจะมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก รวมไปจนถึงการชะลอการเกิดโรคหัวใจด้วย

- ไวน์แดง ไวน์แดงไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้นหากแต่มันยังจะช่วยชะลอ การเกิดโรคหัวใจได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องทานเพียงแค่วันละ 1 แก้ว เพราะถ้าหากมากกว่านั้นอาจจะเป็นโรคอื่นแทนได้

อย่างไรก็ตามโรคหัวใจยังมีอีกหลายสาเหตุที่เกิดขึ้นแต่ใช่ว่าจะเป็นโรคที่ รักษาให้หายไม่ได้ เนื่องจากหากเราค้นพบโรคหัวใจตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจจะหาหนทางแก้ได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นเพื่อป้องกันจึงเน้นไปที่เรื่องการออกกำลังกายและเลือกรับประทาน อาหารที่มีประโยชน์เป็นหลัก เพราะมันจะส่งผลให้เราเกิดโรคต่าง ๆ ได้ช้าขึ้นไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม

ขอบคุณบทความดี ๆ และภาพจาก : Kapook.com

บทความต้นฉบับ
http://www.momypedia.com/