วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดื่มน้ำเท่าไรถึงจะเพียงพอที่ร่างกายต้องการ

เพื่อนๆเคยสงสัยมั้ยคะว่าแต่ละคนควรจะดื่มน้ำเท่าไรถึงจะเพียงพอที่ร่างกายต้องการ วันนี้เรามีสูตรคำนวณการดื่มน้ำต่อน้ำหนักตัวของแต่ละคนมาฝากกันด้วย ยังไงก็ตามทานการทานน้ำเปล่านั้นดีที่สุดต่อร่างกาย และยิ่งถ้าจะให้ดีขึ้นไปต้องดื่มน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ทค่ะ MRET cleanwatermret เหนือกว่าน้ำสะอาดธรรมดา





ขอบคุณ
www.herbale.net




Tagged under 

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ฉลาดรู้เรื่อง น้ำ สู้โรคร้าย

MRET (เอ็มเร็ท) ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมงานสัมมนา เรื่อง "ฉลาดรู้เรื่อง น้ำ สู้โรคร้าย" พบกับ นายแพทย์พีรยศ ตรงสวัสดิ์ แพทย์นักสาธารณสุข และคุณจะได้พบกับเรื่องราวที่อาจทำให้คุณประทับใจไปกับความรัก ความทุ่มเท อย่างสุดหัวใจของ คุณสุรินทร์ สง่าแสง สามีที่ดูแลภรรยาที่ป่วยเป็นภูมิแพ้ตัวเอง SLE ซึ่งมีอาการสาหัสจนเข้าขั้นวิกฤติ  และเรื่องราวของคุณภาษิตา ชัยรุ่งโรจน์ปัญญา ลูกสาวที่ห่วงใยและดูแลคุณแม่ที่เป็นโรคไวรัสลงไขสันหลัง
ในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน ลงทะเบียนเวลา 12.30 น. เริ่มสัมมนา 13.00 -16.00 น. ที่อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปีซอยศูนย์วิจัย งานนี้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
 พิเศษ ผู้ลงทะเบียนรับฟรี !!!
- หนังสือศาสตร์แห่งวารีบำบัด
- หนังสือ ความลับของน้ำ เล่ม 1 "ฉลาดรู้...สู้โรคร้าย"
- น้ำดื่มเอ็มเร็ทแอคทีฟวันทูโอ (MRET Activ.120) ขนาดทดลอง
** สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 085-6261656 , 02-6938618 หรือ supaporn.tudtoo@gmail.com**
(สำรองที่นั่งภายในวันที่ 28 มิถุนายนนี้เท่านั้น)

Tagged under 

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้ำปรับโมเลกุล ต้านภัยโรคมะเร็ง




น้ำปรับโมเลกุล ต้านภัยโรคมะเร็ง
"ผู้ ป่วยมะเร็งไม่ได้เสียชีวิตโดยตรงจากโรคมะเร็ง แต่เสียชีวิตโดยอ้อม จากอวัยวะสำคัญเสื่อมหน้าที่...หากภูมิต้านทานมะเร็งของผู้ป่วยเข้มแข็ง ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตอยู่ร่วมกับมะเร็งได้ยาวนาน นับสิบปี"
 

โดย รศ.พญ.สุพัตรา แสงรุจิ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์
โรงพยาบาลศิริราช


แจกฟรี E-Book ยึดหลัก 5 อ.ป้องกันมะเร็งได้อย่างไรที่http://cleanwatermret.igetweb.com/






วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คืนความสุข ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน ด้วยน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท



สุขภาพ   สำคัญกว่าเงินทอง

สุขภาพ   สำคัญกว่าเงินทอง

พรเพ็ญ  ดอกไม้
ศึกษานิเทศก์ ชำนาญการพิเศษ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1
ศรีสะเกษ

การใช้น้ำเอ็มเร็ทรักษาอาการโรคสะเก็ดเงินนั้น 
พี่เขยของดิฉันเชื่อถือ เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ 
เพราะหลังจากที่ดิฉันนำน้ำเอ็มเร็ทไปให้ดื่มอยู่ประมาณ
ไม่ถึงสัปดาห์  ปรากฏว่า สะเก็ดหลุดหายเกลี้ยงหมดเลย 

    ดิฉันมีอาชีพรับราชการ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 1  อายุ 53 ปี  โดยปกติแล้วการเป็นนักวิชาการจะไม่เชื่อการโฆษณาง่ายๆ อยู่แล้ว  ไม่ว่าจากสื่อใดๆ  แต่จากการดูทีวี

ซึ่งเป็นรายการทีวี ที่สามีเป็นแฟนประจำรายการแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้ (สามีเป็นข้าราชการตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน) ทำให้ดิฉันต้องพลอยดูทีวีช่องนี้ไปด้วย 


    จากการเล่าถึงรายละเอียดผลการทดลองการใช้
น้ำเอ็มเร็ทของนายแพทย์พีรยศ ตรงสวัสดิ์ ที่บอกว่าได้ทดลองกับคนไข้ของท่านแล้วได้ผลอย่างไรบ้าง  และนายแพทย์เฉก ธนะสิริ ที่ยืนยันว่าดีจริง และบอกว่า ท่านจะอยู่ถึงร้อยปี ทำให้ดิฉันสนใจในการศึกษารายละเอียด  เพราะจากการยืนยันผลการใช้ของคนระดับนายแพทย์นั้น มีคความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว


    ดิฉันจึงจดหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏในหน้าจอทีวี และโทรศัพท์ถามไปยังบริษัทฯ เพื่อสอบถามรายละเอียดของเครื่อง
MRET  เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งราคาให้ทราบ ก็นับว่าราคาสูงมากทีเดียว


    ทางบริษัทฯ ได้ส่งรายละเอียด พร้อมแผ่น CD ให้ทางไปรษณีย์  เมื่อศึกษาดูอย่างจริงจังแล้ว เห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะหนังสือ “ฟังเขา (เธอ) เล่า...”  อ่านแล้วเชื่อเลย  เพราะเป็นบทสัมภาษณ์ของคนในสายอาชีพต่างๆ ที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์จากการดื่มน้ำออกมาให้อ่าน


    รอมาอยู่เกือบปี เพราะราคาของเครื่อง
MRET สูง ทำให้ตัดสินใจยากสักหน่อย  ได้แต่เอาเอกสารให้ญาติๆ และเพื่อนร่วมงานอ่านด้วย  สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อในที่สุด ก็เพราะว่าลูกสาวของดิฉันมีอาการแพ้อยู่เป็นประจำ เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงอายุ 27 ปี  อาการที่หมอบอกว่าเป็นลมพิษ  ผื่นจะขึ้นอยู่ประจำทั้งที่ตัวและศีรษะ  ผื่นขึ้นเป็นปื้นแดงเต็มไปหมด  คันไปทั้งหัวทั้งตัว  จนไปทำงานไม่ได้ เป็นอยู่ประจำ  เดือนหนึ่งเป็นหลายครั้ง  และสามีก็เป็นโรคเบาหวานก็เลยตัดสินใจว่า ลองดู  สุขภาพสำคัญกว่าเงินทอง  หากเจ็บป่วยอย่างรุนแรง จำนวนเงินเท่านี้ก็เอาไม่อยู่   ดีกว่าจะเข้าสุภาษิต “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”  ประกอบกับมีญาติที่ป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน คือพี่เขย ซึ่งเป็นโรคสะเก็ดเงินมาหลายปี และเป็นโรคเบาหวานร่วมด้วย  เคยเอาหนังสือให้ท่านอ่าน  ท่านสนใจ แต่ไม่มีเงินซื้อ  พออาการสะเก็ดเงินกำเริบ พี่สาวดิฉันโทรศัพท์ไปถามดิฉันว่า ซื้อเครื่องทำน้ำเอ็มเร็ทหรือยัง  ถ้าซื้อแล้ว ช่วยเอาไปให้ดื่มบ้าง  ดิฉันพูดกับสามีว่า ท่าทางพี่เขยจะทนไม่ไหวแล้ว และคงจะเริ่มหาทางเลือกในการรักษา  เพราะปกติจะรับประทานยาจากโรงพยาบาลประจำอยู่แล้ว  ก็เลยปรึกษากันว่า เพื่อสุขภาพของคนในครอบครัวและญาติพี่น้อง น่าจะลองดู  ส่วนตัวดิฉันเองไม่มีโรคประจำตัวอะไร


    ดิฉันได้โทรศัพท์ไปสั่งซื้อที่บริษัทฯ  ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ได้รับ
เครื่องทำน้ำเอ็มเร็ท (ช่วงนั้นทางบริษัทบอกว่าต้องรอ เพราะหมดพอดี)  จากนั้นมา ครอบครัวดิฉันก็ได้ดื่มน้ำนี้เป็นประจำทุกวัน  เป็นน้ำที่ใช้ดื่มกินตามปกติประจำวัน ผลจากการดื่มน้ำเอ็มเร็ทเป็นประจำ ปรากฏผลที่มหัศจรรย์ดังนี้


    สำหรับคนในครอบครัว 


    ลูกสาวดิฉันไม่ปรากฏอาการ
ลมพิษอีกเลย มาจนถึงทุกวันนี้  เชื่อได้สนิทใจเลยว่า เป็นผลจากการดื่มน้ำเอ็มเร็ท  ลูกสาวบอกว่า ลืมไปเลยว่าเคยเป็นลมพิษ 


    สำหรับสามีปกติจะต้องไปรับยาควบคุมน้ำตาลจากโรงพยาบาลทุกๆ 3 เดือน และหมอจะต้องเจาะเลือดทุกครั้ง เพื่อวัด
ระดับน้ำตาลในเลือด  ก่อนหน้านี้ ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะสูง ปรากฏให้เห็นประจำ  แต่หลังจากดื่มน้ำเอ็มเร็ทแล้ว กลับพบว่า น้ำตาลในเลือดปกติ ความดันปกติ  หมอชมทุกครั้งว่า รักษาสุขภาพได้ดี (ซึ่งจริงๆ แล้วสามีดิฉันจะรับประทานอาหารตามที่ชอบอยู่เสมอ เช่น ขนมก็ยังรับประทานอยู่ตามปกติ  ผลไม้รสหวานๆ ก็ยังแอบรับประทาน ซึ่งห้ามไม่ฟังอยู่แล้ว  และดื่มเหล้า เบียร์เป็นบางครั้ง)


    พวกเราก็สรุปได้เลยว่า เป็นเพราะเราดื่ม
น้ำเอ็มเร็ทแน่นอน ทำให้ทุกคนในครอบครัวสุขภาพดีขึ้น


    สำหรับตัวดิฉันเองไม่มีโรคประจำตัว  แต่รู้สึกได้ว่า เวลาตื่นนอนทุกครั้ง จะไม่มีอาการงัวเงียใดๆ เลย  ไม่ว่าจะตื่นเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน หรือตื่นนอนในตอนเช้า แม้ว่านอนดึกแค่ไหน  และน่าแปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตื่นตรงเวลาทุกวันประมาณ 6 โมงเช้า โดยไม่เคยใช้นาฬิกาปลุกเลย  เป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับดิฉัน ซึ่งก่อนนี้ไม่เคยเป็น  เพราะวันไหนนอนดึก จะมี
อาการอ่อนเพลีย แต่ทุกวันนี้ ตื่นเช้าได้และตรงเวลาทุกวัน  นอนหลับสนิทตลอดคืน ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นทุกวัน


    สำหรับเครือญาติ


    การใช้
น้ำเอ็มเร็ทเยียวยาอาการโรคสะเก็ดเงินนั้น พี่เขยของดิฉันเชื่อถือเกินร้อยเปอร์เซ็นต์  เพราะหลังจากที่ดิฉันนำน้ำเอ็มเร็ทไปให้ดื่มอยู่ประมาณไม่ถึงสัปดาห์ ปรากฏว่า สะเก็ดหลุดหายเกลี้ยงหมดเลย ท่านบอกว่ามหัศจรรย์จริงๆ  ทุกวันนี้ ท่านจะมารับน้ำเอ็มเร็ทไปดื่มอยู่เป็นประจำ  ท่านจะเก็บน้ำไว้ดื่มเหมือนดื่มยา ดื่มวันละ 1 แก้ว เพราะกลัวหมดเร็ว  เนื่องจากระยะทางจากบ้านท่านห่างจากบ้านดิฉันประมาณ 42 กิโลเมตร อยู่คนละอำเภอ  ทุกครั้ง หากดิฉันไปเยี่ยม ก็จะหิ้วไปด้วยครั้งละ 6 ลิตร  หากวันใดที่น้ำหมด ท่านก็จะให้ลูกๆ ไปเอาให้


    ญาติอีกรายหนึ่ง พี่เขยของดิฉันอีกคนหนึ่ง เป็นข้าราชการบำนาญ เป็น
หวัดเจ็บคอ  ดิฉันนำน้ำไปให้ดื่ม ท่านลองดื่มดู  2-3 วันผ่านไป ท่านบอกว่า อาการเจ็บคอหายไปเลย  เพราะปกติถ้าเป็นหวัดเจ็บคอ จะต้องเป็นอยู่หลายวัน  ท่านบอกว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นไปได้  ระยะเวลาที่พวกเราดื่มน้ำเอ็มเร็ทกันมา ประมาณ 10 เดือนแล้ว


    สำหรับเพื่อนร่วมงาน


    จากผลการดื่ม
น้ำเอ็มเร็ทแล้วได้ผล ดิฉันได้เล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ที่ทำงานฟัง  น้องที่ทำงานขอรับน้ำเอ็มเร็ทไปทดลองดื่ม  เนื่องจากเขาได้อ่านจากหนังสือ “ฟังเขา (เธอ) เล่า...” ที่ดิฉันเคยเอาให้อ่าน  ประกอบกับเขาเคยดูรายการทีวี ที่คุณหมอพีรยศ ตรงสวัสดิ์ ไปออกรายการด้วย  ลูกชายเขาและสามีเป็นโรคแพ้อากาศ  คือ จะจามตลอดเวลา  ส่วนลูกชายจะไม่สามารถอาบน้ำได้ในเวลาค่ำ  เอาเป็นว่า หลังพระอาทิตย์ตก จะอาบน้ำไม่ได้เลย  ไม่เช่นนั้นจะเป็นหวัดทันที และจามอย่างรุนแรง  จากการดื่มน้ำเอ็มเร็ทได้เพียง 2-3 วัน อาการจามและอาการหวัดหายเป็นปลิดทิ้ง  ดิฉันได้แนะนำให้เขาซื้อเครื่องเอ็มเร็ทไว้ใช้เอง แต่น้องเขากำลังอยู่ในระยะที่ยังไม่พร้อม  เนื่องจากมีภาระค่าใช้จ่ายมาก จึงรับน้ำจากดิฉันไปดื่มอยู่เป็นประจำ


    ประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ที่ดิฉันและครอบครัวได้รับ และมีความยินดีในการเผยแพร่ประสบการณ์สู่ท่านอื่นๆ เพื่อประโยชน์แก่ผู้ต้องการ
รักษาสุขภาพเช่นกัน



About Story

บทความในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็น และประสบการณ์ตรงของเจ้าของเรื่องแต่ละท่าน ภาพและข้อความต่างๆ ที่ปรากฎในเว็บไซต์ ผู้อ่านพึงใช้ดุลยพินิจในการอ่านด้วยตนเอง
ทางผู้จัดทำขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดรวมถึงภาพประกอบต่างๆ ห้ามมิให้ผู้ใดไปทำซ้ำ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร

About Reference

ขอขอบคุณบทความจาก "หนังสือฟังเขา (เธอ) เล่า น้ำแอคทิเวท ดีจริงหรือ ? ฉบับพิเศษ"
จัดพิมพ์โดย Health Channel Magazine
จัดจำหน่ายโดย K.K Publishing
ISBN : 978-974-496-190-7

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

ชัก หายใจไม่ปกติ


ชัก หายใจไม่ปกติ
ผู้เล่าเรื่อง : สายฝน
ครอบครัวของคุณสายฝน ก็ไม่ต่างจากครอบครัวทั่วไปที่อยู่พร้อมหน้ากัน พ่อแม่ ลูกชายและลูกสาวสองคน ใช้ชีวิตราบเรียบมีความสุขมากกว่าความทุกข์ ด้วยความที่ลูกชายคนแรกของคุณสายฝนมีอายุต่างกับน้องสาวถึง 10 ปี ย่อมเป็นธรรมดาที่น้องคนสุดท้องคนนี้จะเป็นที่รักใคร่ของคนในบ้านเป็นพิเศษ ทั้งความสดใสสมวัย บวกกับความน่าเอ็นดูช่างเจรจาสมกับเป็นเด็กหญิงแต่จู่ๆ ความป่วยไข้ก็พรากสิ่งเหล่านี้ไปจากครอบครัวของพวกเขาแบบไม่ทันตั้งตัว
วันหนึ่ง “น้องใบเตย” ป่วยเป็นไข้ตัวร้อนอยู่หลายวันต้องพามาหาหมอถึง 3 ครั้ง
“กระทั่งครั้งที่ 3 หมอแจ้งว่ามีอาการคล้ายโรค SLE จึงสั่งให้นอนอยู่โรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คเลือดอย่างละเอียด ในระหว่างที่รอผลตรวจใบเตย ก็มีผื่นแดงๆ ขึ้นทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว หมอให้กินยาควบคุมตัวโรค”
สามวันต่อมาได้ผลการตรวจออกมาว่าเธอเป็น SLE
หนึ่งเดือนต่อมาคุณหมอให้ลดยาลงเพราะอาการดีขึ้น นอกจากนี้ยายังทำให้กินอาหารเก่งอาจทำให้อ้วนได้
หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนถัดมา คุณแม่ได้พาน้องใบเตยไปตรวจอีกครั้ง คุณหมอแจ้งว่า ผลตรวจตับไม่ดีให้ส่งตัวน้องใบเตยมาที่โรงพยาบาลเด็กและต้องอยู่โรงพยาบาลถึง 10 วันเนื่องจากผลการตรวจตับ ไต และไขกระดูกอยู่ในเกณฑ์อันตราย นอกจากนี้ยังต้องนำอุจจาระไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อดูเชื้อ
ระหว่างนั้น น้องใบเตยมีอาการเกร็ง แขนข้างขวากระตุก ขาสั่นเป็นระยะ จนคุณหมอต้องฉีดยานอนหลับให้ และส่งตัวกลับไปหาหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลเด็กอีกครั้งหนึ่ง อาการที่ปรากฏ คุณหมอวินิจฉัยว่าเกิดจากความเครียดที่ป่วย คุณหมอจึงให้ยาแก้เครียดไปทานพร้อมกับกำชับว่าอีก 2 วัน ให้มาดูอาการ ระหว่างพักอยู่ที่บ้านก็มีอาการเกร็งและนอนบ่อย
“ไม่กี่วันถัดมาใบเตยไปโรงพยาบาลอีกครั้งตามที่หมอนัด ดูเหมือนใบเตยจะมีอาการกลัวและเกร็งมากขึ้นกว่าเดิม หมอจึงให้อยู่ที่โรงพยาบาลต่อพร้อมกับส่งตัวไปตรวจ MRI สมอง”
อีก 2-3 วันถัดมา น้องใบเตยมีอาการชัก จนในที่สุดต้องนำตัวส่ง ICU และต้องอยู่ใน ICU ถึง 8 วัน จากอาการหนัก ก็ค่อยๆ ดีขึ้น กระทั่งออกจากห้อง ICU น้องใบเตยเป็นไข้ตลอด หมอจึงไม่กล้าให้ยาเพราะเกรงจะเป็นอันตราย เพราะยาที่ให้นั้นจะเป็นยากดภูมิคุ้มกัน
“ช่วงที่ใบเตยยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็มีโอกาสได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งที่ป่วยเป็น SLE เขาดื่มน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท (MRET) โดยที่ไม่ต้องทานยา”
จากนั้นอีก 20 วัน ใบเตยต้องเข้า ICU อีกครั้ง เมื่อการหายใจของเขาไม่เป็นปกติ ผลเลือดต่ำ ทุกอย่างต่ำหมด ใครๆ ก็ต่างคิดกันว่าไม่น่ารอด อีก 17 วันต่อมาใบเตยกลับดีขึ้น และออกจาก ICU และหมอให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน และให้กลับมาตรวจอีกครั้ง
“เมื่อกลับถึงบ้าน ดิฉันจึงสั่งน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท (MRET) มา 6 ขวด เพื่อให้ใบเตยดื่ม ทั้งนำมาชงนมและกินกับยาแทนน้ำอื่น ใบเตยค่อยๆ ดีขึ้น จากไม่ลืมตาก็ค่อยๆลืมตาได้ ใบเตยดื่มน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท (MRET) มาได้ 4 เดือนกว่า เขาสามารถหันหัวตามพ่อตามแม่ได้ ยกแขนตามที่บอกได้บ้าง ยิ้มให้แม่ให้พ่อได้ บอกให้หลับตาได้ จากที่ลูกนอนนิ่ง ตาไม่ลืม แขนขาเกร็งไม่ขยับ ปัจจุบันพัฒนาการของลูกดีขึ้นทุกๆ วัน”
ผู้เล่าเรื่อง : สายฝน
อาชีพ : แม่บ้าน
เรื่องราวที่แบ่งปัน : ความหวัง กำลังใจสู่ลูกน้อย SLE


ไข้หวัดเรื้อรัง สุนัขแสนรักเป็นเนื้องอกที่เต้านม


ไข้หวัดเรื้อรัง สุนัขแสนรักเป็นเนื้องอกที่เต้านม
ผู้เล่าเรื่อง สาวิตรี
ปัญหาสุขภาพที่คุณสาวิตรีเผชิญอยู่บ่อยๆ ก็คือการป่วยเป็นไข้หวัด ถึงแม้จะรักษา และดูแลตัวเองเพียงใด ก็ยังไม่รู้ถึงสาเหตุของการเป็นไข้หวัดที่มีความถี่เช่นนี้อยู่ดี เมื่อคราวที่คุณสาวิตรีได้ไปหาเพื่อนที่บ้าน และพบว่าแม่ของเพื่อนดื่มน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท (MRET) แล้วดูสุขภาพดีขึ้น จึงถือโอกาสทดลองดื่มดูบ้าง
“หลังจากดื่มน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท (MRET) แล้วไม่เป็นหวัดอีกเลย ก่อนหน้าเคยเป็นหวัดบ่อยมาก ต้องกินวิตามินซีเป็นประจำ ปัจจุบันไม่ต้องใช้วิตามินซีอีกเลยก็ยังไม่เป็นหวัดอีก และดิฉันยังเคยเป็นเม็ดในปาก คล้ายกับอาการร้อนในก็หายไปด้วย สุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก มิหนำซ้ำคนอื่นก็มักจะชมว่าอ้วนขึ้น มีน้ำมีนวล และสวยขึ้น”
“เมื่อตัวเราสุขภาพดีแล้ว จึงเริ่มสังเกตสิ่งรอบข้างอย่างสุนัขที่บ้านที่เลี้ยงเอาไว้ ป่วยเป็นเนื้องอกที่เต้านม หลังจากที่สุนัขผ่าตัดเสร็จ เราก็ลองให้กินน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท (MRET) ทุกวัน ก็ดูว่าอาการของสุนัข ก็ดูแข็งแรง และฟื้นตัวเร็ว เมื่อหมอนำชิ้นเนื้อจากการผ่าตัดไปตรวจก็ไม่มีเชื้อมะเร็ง แต่ที่น่าประหลาด ก็ตรงที่แผลผ่าตัดที่มีขนาดยาวมาก เพราะหมอต้องเอาก้อนเนื้องอกที่ค่อนข้างใหญ่ออก ผ่าตัดเสร็จสุนัขต้องอยู่ในห้องไอซียูอีก 1 วัน พอรุ่งขึ้นไปรับกล้บบ้าน สุนัขที่เพิ่งผ่าตัดใหญ่ก็กลับสามารถวิ่งขึ้นรถเองได้ และแผลผ่าตัดที่ยาวประมาณ 7 นิ้ว ก็หายเร็ว และแทบไม่มีร่องรอยของแผลเลย ดิฉันจึงคิดว่าจะให้สุนัขที่เลี้ยงได้กินน้ำปรับโมเลกุลเอ็มเร็ท (MRET) ทุกวัน”
ผู้เล่าเรื่อง สาวิตรี
เรื่องราวที่แบ่งปัน ไข้หวัดเรื้อรัง สุนัขแสนรักเป็นเนื้องอกที่เต้านม

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556


ต้องอย่าเชื่อ ต้องพิสูจน์ก่อน


ต้องอย่าเชื่อ ต้องพิสูจน์ก่อน

ต้องอย่าเชื่อ ต้องพิสูจน์ก่อน

บุญอภิรักษ์ พูนสวัสดิ์
ธุรกิจส่วนตัว
กรุงเทพมหานคร

วันต่อมา ดิฉันก็เริ่มสังเกตตัวเอง
อาการภูมิแพ้ของดิฉันเริ่มดีขึ้น
เสมหะสีเขียวเริ่มจางลง
 และเสมหะก็ลดน้อยลง

    สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ บุญอภิรักษ์ พูนสวัสดิ์  อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกที่ได้ดื่มน้ำ
MRET ให้ทราบตามประสบการณ์ของดิฉันที่ได้ดื่มมา  ดิฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของรายการทีวีช่องหนึ่ง เพราะดิฉันรักชาติ ศาสนา กษัตริย์  ผลิตภัณฑ์ใดที่รายการทีวีช่องนี้เสนอ ก็จะเชื่อ 80 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ  เชื่อแบบเต็มใจเชื่อ ซึ่งดิฉันก็ยังไม่เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะพระพุทธองค์ได้ตรัสเอาไว้ว่า “ต้องอย่าเชื่อ ต้องพิสูจน์ก่อน”


    อยู่มาวันหนึ่ง ญาติของดิฉันได้เล่าให้ฟังว่า น้ำ
MRET มีคุณสมบัติอย่างไร  และญาติของดิฉันท่านนี้ก็ได้ซื้อมาดื่มแล้ว 3 เดือน  ตัวท่านเองเริ่มรู้สึกดีขึ้น แม้ว่าญาติท่านนี้ของดิฉันอายุถึง 73 ปีแล้ว ท่านเคยเป็นโรคเบาหวาน  ผ่านการผ่าตัดหัวใจมาแล้ว  มีอาการมึนศีรษะบ่อย  เมื่อมาดื่มน้ำ MRET ปรากฏว่า ได้ผลดี สุขภาพร่างกายดีขึ้น ก็ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดี ที่ท่านได้รับจากการดื่มน้ำ MRET   ในที่สุด ดิฉันก็ตัดสินใจสั่งซื้อเครื่อง MRET  แต่เครื่องหมด  ต้องรอเกือบ 2 สัปดาห์  ดิฉันไปปล่อยโอกาสในการทดลองดื่มน้ำดีๆ นี้ให้สูญหายไป จึงได้สั่งน้ำที่ผลิตแล้วมาดื่ม 3 ลัง


    วันแรกที่น้ำมาส่งถึงมือ ดิฉันได้ดื่มหมดไป 1 ขวด (1,500 ซีซี) ภายใน 20 นาที  นับได้ว่าเป็นการดื่มที่รวดเร็วมาก  ทั้งนี้ก็เพราะอยากจะรู้ว่า จะเกิดผลดีต่อดิฉันอย่างไร  ภายใน 3 ชั่วโมง หมดอีก 2 ขวด รวมเป็น 3 ขวด  จากการทดลองด้วยตัวเองครั้งนั้น ดิฉันสังเกตพบว่า น้ำ
MRET มีคุณสมบัติจริงตามที่ญาติท่านนั้นบอกไว้ คือ นุ่ม ดื่มได้มาก  โดยปกติแล้ว ดิฉันดื่มน้ำของบริษัทหนึ่งที่มีชื่อเสียงดี อยู่เป็นประจำ  แต่เมื่อได้ลองเปรียบเทียบดูแล้ว น้ำ MRET ดื่มได้คล่องคอ นุ่มคอ  ดื่มได้ปริมาณมาก  เปรียบเทียบกับน้ำดื่มปกติ เมื่อดื่มลงคอ เหมือนจุกที่ลำคอ กลืนลำบาก


    ข้อดีหลายอย่างเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว  ความสุขใจเริ่มเกิดขึ้น  แต่ดิฉันยังต้องพิสูจน์ต่อไปอีก


    เมื่อได้น้ำมา 3 ลัง ก็แบ่งให้ญาติไป 1 ลัง  เราเริ่มดื่มกันใหญ่  เราจะได้ร่วมกันวิเคราะห์ผลได้อื่นๆ ออกมาเพิ่มเติม

ญาติคนที่ 1 ทำงานกลางคืน  เป็นงานเกี่ยวกับห้องบันทึกเสียง  เมื่อดื่มน้ำ MRET แล้ว ปรากฏว่า ไม่หลับ  เขาบอกดิฉันว่า เป็นเพราะน้ำ MRET แน่นอน ที่ทำให้เขาตาสว่าง สดชื่น และตื่นตัว
กอปรด้วยวันที่น้ำมาถึง ดิฉันได้ดื่มไป 3 ขวด  ปรากฏว่า คืนนั้นดิฉันนอนไม่หลับ  กว่าจะหลับได้ก็ตีสองครึ่ง แล้วต้องตื่นไปวัดตอนตีสี่ครึ่งอีกด้วย  ดิฉันมีเวลานอนเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น  โดยปกติ ถ้าดิฉันนอนน้อยก็จะง่วงไปทั้งวัน ด้วยฤทธิ์ของน้ำ MRET นั่นเอง ที่แสดงให้ปรากฏอาการตาสว่าง สดชื่น และตื่นตัว เหมือนกับญาติคนที่ 1
พอรุ่งเช้า ดิฉันไปทำบุญที่วัดนาป่าพง นครนายก ของท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล  ดิฉันได้นำน้ำ MRET ไปถวายท่าน 1 ลัง เพราะทราบว่า ท่านก็เป็นโรคภูมิแพ้เหมือนดิฉัน


    วันต่อมา ดิฉันก็เริ่มสังเกตตัวเอง อาการภูมิแพ้ของดิฉันเริ่มดีขึ้น  เสมหะสีเขียวเริ่มจางลง  และเสมหะก็ลดน้อยลง  จึงสรุปในขั้นนี้ว่า น้ำ
MRET ช่วยให้คุณภาพชีวิตของดิฉันดีขึ้น


    ดิฉันมีโรคประจำตัวอื่นๆ คือ เบาหวาน, ไมเกรน, ภูมิแพ้, ผิวแห้ง
โรคซึ่งก่อความทุกข์ให้กับดิฉันตลอดมาก็คือ ปวดศีรษะไมเกรน  ปกติเวลาดิฉันปวดศีรษะ รับประทานยาแก้ปวดไมเกรน  เมื่อรับประทานยาแล้ว จะรู้สึกหัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ เบื่ออาหาร  แต่หลังจากดิฉันทานรับประทานยาแก้ไมเกรนพร้อมน้ำ
MRET   อาการแน่นหน้าอก คลื่นไส้ เบื่ออาหารก็หายไป  ดิฉันก็สังเกตว่า น้ำ MRET คงจะช่วยนำพายาไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี ดูดซึมได้เร็ว อาการที่เคยเป็นจึงหายไป  เพราะ MRET ดื่มให้คล่อง และดื่มได้ปริมาณมาก  อาการที่นำทุกข์ใจก็น้อยลง  ความทุกข์ของดิฉันก็เริ่มลดลง
โรคผิวแห้งก็เป็นอีกโรคหนึ่ง ที่เคยก่อความทุกข์ใจให้ดิฉันมาก  ดิฉันรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่นอยู่เป็นประจำ ก็ได้ผลไม่ดีนัก  แต่เมื่อดื่มควบคู่กับน้ำ MRET ผิวแห้งของดิฉันก็ดีขึ้น  ผิวชุ่มชื้นขึ้น  ความหมองคล้ำก็ไม่มาก  ผิวหน้าก็ชุ่มชื้นมากกว่าปกติ 

    MRET ไม่ใช่ยา  ยาต่างๆ เป็นพระเอกของโรคแต่ละอย่าง  แต่ MRET คือพระรอง ช่วยส่งเสริมพระเอก คือตัวยา ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”  ข้อนี้ดิฉันพบมาด้วยตัวดิฉันเอง  แต่สำหรับบุคคลท่านอื่น ดิฉันไม่ทราบ ความจริงต่างๆ ของดิฉันที่ได้เล่ามา ได้ผ่านการทดลองโดยตัวดิฉันแล้ว  ดิฉันจึงเริ่มขยายผลด้วยการถ่ายทอดประสบการณ์และสิ่งที่ดีให้กับญาติมิตร เช่น 
ดิฉันได้มอบน้ำ MRET ให้ภรรยาของท่านอธิการบดีราชมงคลฯ ได้ดื่มและได้บอกเล่าถึงสรรพคุณต่างๆ  ภรรยาท่านอธิการบดีก็นำน้ำให้ท่านอธิการบดีได้ดื่ม  ท่านบอกว่า น้ำดื่มนี้นุ่มมากๆ    ดิฉันดีใจที่นำสิ่งๆ ดีให้กับบุคคลที่เราเคารพรัก และได้เล่าประสบการณ์ของดิฉันให้แต่ละท่านได้รู้ ได้เห็น  ดิฉันต้องการให้ญาติมิตรที่เคารพรักได้รับสิ่งดีๆ เช่นเดียวกับดิฉัน  ดิฉันได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ขาย โดยไม่มีตำแหน่งของบริษัทฯ  เพราะ MRET ให้สิ่งที่ดีจริงๆ ดิฉันจึงยอมเป็นกระบอกเสียงให้กับ MRET

    ปัจจุบัน ดิฉันดำรงตำแหน่งกรรมการเลขานุการ มูลนิธิปริญญาธรรม  มูลนิธิเราได้สอนพระอภิธรรม  ดิฉันก็ได้โอกาสในการนำน้ำ MRET แจกจ่ายให้กับสมาชิก  มีอาจารย์ท่านหนึ่งอายุเข้า 85 ปีแล้ว ท่านได้รับการผ่าตัดเนื้อร้ายที่ปอด ที่โรงพยาบาลศิริราช  เมื่อดิฉันทราบ ก็รีบนำน้ำ MRET ไปกราบท่าน  ท่านรู้สึกขอบคุณน้ำ MRET  เพราะต่อมาท่านสดชื่นขึ้นมากตามลำดับ  กำลังใจจากน้ำ MRET ยิ่งใหญ่มาก ดิฉันรู้สึกขอบคุณน้ำ MRET และบริษัทฯ ที่นำสิ่งที่มีคุณค่าต่อสังคม และเป็นสิ่งที่ดิฉันจะต้องเผยแพร่ โดยไม่มีเงื่อนไข ต้องการให้ผู้ที่ได้รับข่าวสารจากดิฉันมีความทุกข์ลดน้อยลง  ความสุขก็จะได้ปรากฏขึ้น ดังพุทธวจนที่ว่า
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า   

“ให้ของดี          ย่อมได้ของดี

ให้ของชอบ         ย่อมได้ของชอบ

ให้ของเลิศ          ย่อมได้ของเลิศ

ให้ของที่ประเสริฐ  ย่อมได้ฐานะอันประเสริฐ”



About Story

บทความในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็น และประสบการณ์ตรงของเจ้าของเรื่องแต่ละท่าน ภาพและข้อความต่างๆ ที่ปรากฎในเว็บไซต์ ผู้อ่านพึงใช้ดุลยพินิจในการอ่านด้วยตนเอง
ทางผู้จัดทำขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดรวมถึงภาพประกอบต่างๆ ห้ามมิให้ผู้ใดไปทำซ้ำ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร


About Reference

ขอขอบคุณบทความจาก "หนังสือฟังเขา (เธอ) เล่า น้ำแอคทิเวท ดีจริงหรือ ? ฉบับพิเศษ"
จัดพิมพ์โดย Health Channel Magazine
จัดจำหน่ายโดย K.K Publishing
ISBN : 978-974-496-190-7

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เพื่อสุขภาพของพี่น้องร่วมโลก


เพื่อสุขภาพของพี่น้องร่วมโลก

เพื่อสุขภาพของพี่น้องร่วมโลก

เพื่อสุขภาพของพี่น้องร่วมโลก

พันตำรวจโท ฐิติพล อ้นหาด
รับราชการตำรวจ
ลพบุรี

ปรากฏว่า หลังจากนั้น
ผลการตรวจเลือดดีขึ้น  โลหิตไม่ข้นเป็นลิ่มเลือด 
รู้สึกตัวเบาขึ้น  ความดันโลหิตเริ่มเป็นปกติ

    กระผม พันตำรวจโท ฐิติพล อ้นหาด สว.สท.โคกเจริญ จังหวัดลพบุรี เดิมเป็นอดีต สว.หน.ด่าน ตม.เขมราฐได้ 9 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543 ต้องรับผิดชอบหน้าที่หนัก  เวลาพักผ่อนน้อย  ทำให้บางครั้งมีอาการความดันโลหิตสูง อ่อนเพลีย  และจากการทำงานที่บางครั้งรับประทานอาหารค่ำไม่เป็นเวลา ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน โลหิตข้นเป็นลิ่มเลือด รักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ และโรงพยาบาลคำสรรพสิทธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นประจำ  แต่ก็แค่พอทุเลาลงบ้าง

    พอได้ทราบจากการโฆษณาน้ำเอ็มเร็ทจากทีวี เกิดความสนใจ  หลังจากปรึกษากับญาติ จึงตกลงใจซื้อมาทดลองดื่มดู  ปรากฏว่า ผลการตรวจเลือดดีขึ้น  โลหิตไม่ข้นเป็นลิ่มเลือด  รู้สึกอาการตัวเบาดีขึ้น  ความดันโลหิตเริ่มเป็นปกติ  โดยกระผมดื่มน้ำร่วมกับการรับประทานยาของหมอที่ให้มา  และภายหลังได้ทดลองลดยาลง ปรากฏผลความดันเป็นปกติ  อาการกรดไหลย้อนทุเลาลงได้ชัดเจน  การปัสสวะขับถ่ายดีขึ้น  จากนั้นสังเกตจากผิวพรรณนุ่มนวลดี จนเพื่อนๆ ลูกน้องที่ทำงานต่างชื่นชมในผิวพรรณใบหน้า  ที่สำคัญผลตรวจวัดน้ำตาลลดลงเป็นสภาพปกติของคนเริ่มสูงวัย 
กระผมได้ดื่มน้ำมาเป็นเวลาประมาณสองปี ไม่เคยขาด  แม้เดินทาง ก็จะเตรียมไว้ในรถยนต์

    กระผมเห็นว่าไหนๆ ซื้อเครื่องมาแล้ว ก็แจกจ่ายน้ำ ให้กับน้องชาย ชื่อนายภาณุพันธ์ อ้นหาด ซึ่งป่วยด้วยโรคเบาหวาน  น้ำตาล 500 เศษ ซึ่งหมอบอกว่า อันตรายมาก  กระผมรู้เข้า จึงได้ทำน้ำเอ็มเร็ทมาให้ดื่ม สัปดาห์ละ 2 ขวดใหญ่ๆ (20 ลิตร)  ปรากฏว่า เหมือนปฏิหาริย์ คือ น้ำตาลลดลงมาก  หมอยังแปลกใจ  แต่น้องชายเกรงใจที่ผมต้องมีภาระเพิ่ม ก็ลองหยุดดื่มบ้าง แต่น้ำตาลก็ขึ้น  พอกระผมรู้เข้า ก็รีบบอกไม่ต้องห่วงเรื่องภาระ จึงได้ทำน้ำมาให้ดื่มตลอดเป็นเวลาเกือบหนึ่งปี  ปรากฏว่า อาการดีขึ้นอย่างมาก  ร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนเพลีย  สายตาดี  น้ำหนักสม่ำเสมอ  จากการที่เคยลดอาหารจนซูบผอม เดี๋ยวนี้ดูสดชื่น ผิวพรรณดี


    กระผมได้นำน้ำให้กับคุณแม่ นางบุญมาก อ้นหาด อายุ 86 ปี  ครั้งแรกท่านบอกว่าเวียนศีรษะ เลยหยุดดื่ม  พอผ่านมาสักระยะ ท่านได้เห็นในทีวี จึงสนใจ คงเพราะคนสูงอายุมักไม่ค่อยฟังใครง่ายๆ  กระผมจึงให้ดื่มทุกวัน ท่านบอกว่า เออดี  ผลตรวจน้ำตาล ซึ่งท่านเป็นเบาหวาน ลดลง  ความดันปกติดีทุกวัน เพราะมีเครื่องวัดความดันประจำบ้าน และน้องชายมีเครื่องวัดน้ำตาล  ปัจจุบันคุณแม่แข็งแรง ตื่นแต่เช้า  เช้าๆ ออกใส่บาตรพระ  บางครั้งเดินไปตลาดในจังหวัดลพบุรีกับไม้เท้าคู่ชีพ จนคนในตลาดชมว่าแข็งแรงดี


    และอีกราย ภรรยาลูกพี่ลูกน้องของกระผม ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ผ่าตัดไปหนึ่งข้าง  เมื่อทราบข่าว ก็ทำน้ำให้ดื่ม เพราะเขาต้องบำบัดที่โรงพยาบาลประจำ  ปรากฏว่า ในช่วงต้นปีนี้ไม่กี่เดือนอาการดีขึ้นมาก ตรวจไม่พบเชื้อมะเร็ง ไม่แพ้รังสี ผิวพรรณดี สามารถมีผลตรวจพิสูจน์ได้ 


    จากประสบการณ์ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เพื่อหวังว่าจะได้เผยแพร่สิ่งดีๆ ให้กับพี่น้องร่วมโลกได้มีสุขภาพที่ดี พลามัยสมบูรณ์  ขณะนี้ครอบครัวของผมถือได้ว่า “เป็นครอบครัวเอ็มเร็ท ที่มีสุขภาพเข็งแรงที่ยั่งยืนครับ”



About Story

บทความในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็น และประสบการณ์ตรงของเจาของเรื่องแต่ละท่าน ภาพและข้อความต่างๆ ที่ปรากฎในเว็บไซต์ ผู้อ่านพึงใช้ดุลยพินิจในการอ่านด้วยตนเอง
ทางผู้จัดทำขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดรวมถึงภาพประกอบต่างๆ ห้ามมิให้ผู้ใดไปทำซ้ำ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร

About Reference

ขอขอบคุณบทความจาก "หนังสือฟังเขา (เธอ) เล่า น้ำแอคทิเวท ดีจริงหรือ ? ฉบับพิเศษ"
จัดพิมพ์โดย Health Channel Magazine
จัดจำหน่ายโดย K.K Publishing
ISBN : 978-974-496-190-7

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เส้นเลือดตีบในหัวใจคุณครูดีเด่น ดิฉันดื่มน้ำอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่เชื่อก็ลองดู

   
    อดีตเรือจ้างผู้นี้ทำงานอย่างหนักมาตลอดเพราะการสอนหนังสือนั้นเป็นงานหนักที่ต้องทุ่มเทอย่างมากเป็นเหตุให้คุณครูประสบกับปัญหาการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้สุขภาพไม่สู้จะแข็งแรงนักและต่อมาก็เป็นโรคความดันโลหิตสูงเส้นเลือดหัวใจตีบเป็นโรคภูมิแพ้และอื่นๆอีกสารพัดโรค
      
       
       
       การเจ็บป่วยจากโรคที่ว่านั้นคุณนิตยาเป็นมาตั้งแต่อายุ 50 ปีเศษ กระทั่งปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญอายุ 72 ปีเศษ เป็นวัยที่ต้องดูแลสุขภาพอย่างมาก
  
       “ดิฉันได้เกิดความสนใจน้ำปรับโมเลกุลอย่างมาก เพราะเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการดูแลสุขภาพจึงเริ่มสั่งซื้อน้ำปรับโมเลกุลมาทดลองดื่ม เมื่อดื่มครั้งแรกปรากฏว่าคืนนั้นนอนหลับสบายทั้งคืน ตื่นนอนตอนเช้ารู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน และคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองทุกวัน ทำงานบ้านไม่เหนื่อยทั้งวันร่างกายแข็งแรงออกกำลังกายแอโรบิคลีลาศได้เป็นประจำ”
  
       “ระบบขับถ่ายดีมาก ท้องไม่ผูก ปัสสาวะใสไม่เป็นฟองเหมือนเมื่อก่อนความดันโลหิตปกติดี ทุกวันนี้ไม่คิดมาก ไม่วิตกกังวล ร้องเพลงอย่างมีความสุขและผลการตรวจเลือดก็ดีขึ้นกว่าเดิม”
  
       “บางครั้งที่ดิฉันคันตาหรือคันตามผิวหนังก็จะใช้น้ำปรับโมเลกุล ล้างตาล้างหน้าทาบริเวณที่คันและใช้อาบน้ำรู้สึกสบายตัวไม่คันอีกต่อไปนอกจากนี้ยังนำมาสเปรย์ผิวหน้าผิวหนังรู้สึกได้ว่าผิวจะเต่งตึง”
  
       คุณนิตยาใช้ชีวิตใหม่อย่างมีความสุขร่วมกับสามี ทั้งคู่สนใจและติดตามข้อมูลข่าวสารของน้ำปรับโมเลกุลอยู่เสมอ อีกทั้งยังไปร่วมฟังบรรยายทุกครั้งที่มีการจัดสัมมนาพร้อมกับได้ดื่มน้ำปรับโมเลกุลพร้อมๆกับสามี
  
       “สามีอายุ 78 ปีแล้ว สุขภาพยังแข็งแรงดีมากไม่มีโรคภัยไข้เจ็บสุขภาพดีและจิตใจดีมากเล่นเทนนิสเป็นประจำ วิ่งได้สบายสามีบอกว่าน้ำปรับโมเลกุลดีจริงๆ และเขาตั้งโปรแกรมเอาไว้ว่าจะมีอายุ 130 ปี”
  
       ทั้งคุณนิตยา และสามีร่วมกันผลิตน้ำปรับโมเลกุล ทุกวันให้กับคนในบ้านและแบ่งปันให้ญาติและเพื่อนบ้านได้ดื่ม
  
       “ทุกคนบอกว่าน้ำปรับโมเลกุลดีมากคนที่มีผื่นคันตามตัวก็หายไปนอนหลับสบายส่วนเพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งล้มเส้นเลือดในสมองแตกต้องเข้ารับการผ่าตัดอาการหนักมาก เมื่อดิฉันทราบข่าวจึงให้ภรรยาของคนป่วยมารับน้ำปรับโมเลกุลไปให้คนป่วยดื่มเมื่อเขาไปหาหมอๆ บอกว่าอาการเขาดีขึ้นกว่าคนไข้รายอื่นๆ มากขณะนี้อาการเขาก็ดีขึ้นตามลำดับขยับตัวได้ฟังคนพูดได้เข้าใจและรับประทานอาหารได้ดี”
  
       เมื่อร่างกายมีกำลังกายที่แข็งแรง และสุขภาพดีขึ้นแล้ว คุณนิตยาจึงนำน้ำปรับโมเลกุลมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
  
        “ดิฉันใช้น้ำปรับโมเลกุลมาเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารคาวหวานทำให้อาหารไม่เสียเร็วอยู่ได้หลายวันใช้หุงข้าวข้าวที่หุงด้วยน้ำปรับโมเลกุลจะนุ่มเหมือนข้าวใหม่ เมื่อก่อนหุงด้วยน้ำธรรมดาข้าวจะเสียเร็ว”
  
       “นำไปผสมน้ำผลไม้อย่างน้ำส้มน้ำแอปเปิ้ลจะได้รสชาติอร่อยกลมกล่อมเวลาปอกผลไม้แล้วนำไปแช่ในน้ำปรับโมเลกุลผมไม้จะสดกรอบไม่ดำน่ารับประทาน”
  
       “ดิฉันยังนำเอาเนื้อสัตว์ไปแช่ในน้ำปรับโมเลกุลอีกด้วยรู้สึกว่าเนื้อสัตว์ที่แช่จะสดไม่เสียง่ายนำไปประกอบอาหารจะสดใหม่”
  
        “เมื่อนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันแล้วดิฉันจึงนำมาให้สัตว์เลี้ยงดื่มไม่ว่าจะเป็นหมา แมว สัตว์จะมีขนปุกปุยสะอาด ดวงตาแจ่มใส ร่าเริง ชอบเล่นซุกซนกับเจ้าของ”
  
       “ยังมีพืชผัก ดอกไม้ที่นำน้ำปรับโมเลกุลไปรด สังเกตดูว่าจะโตเร็ว สดชื่นงอกงามดีไม้ดอกจะมีดอกเร็วไม้ใบก็จะเขียวขจีเก็บมารับประทานได้ทุกวัน”
  
       ทุกวันนี้คุณนิตยาใช้ชีวิตใหม่ในบั้นปลายอย่างมีความสุขด้วยการดูแลสุขภาพร่างกายอย่างใกล้ชิดทำให้สุขภาพดีขึ้นกว่าเมื่อครั้งยังรับราชการ อย่างมากและไม่เป็นปัญหาหรือภาระของคนในครอบครัวอีกต่อไป



       ประสบการณ์ตรงของคุณนิตยา แก้วเกิดเคน ดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำที่เพียงพอ
       ที่มา : สำนักพิมพ์ Health Channel
       หมายเหตุ : บทความที่ลงในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็นของเจ้าของเรื่องเท่านั้น ภาพและข้อความต่างๆที่ปรากฏผู้อ่านควรใช้ดุลยพินิจในการอ่าน
  
       ไม่มีน้ำ ไม่มีชีวิต
       น้ำไม่ใช่ยา
       น้ำคุณภาพส่งเสริมสุขภาพ
       Without water, there is no life…(Peter Agre,Nobel 2003)
       

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี จวบจนสิ้นอายุขัย


ไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี จวบจนสิ้นอายุขัย

ไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี
จวบจนสิ้น
อายุขัย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไชยยันต์ ไชยยะ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพมหานคร

              
ผมใช้เวลาเกือบทั้งหมด
ทุ่มเทให้กับการทำงาน
แต่สิ่งที่ผมต้องแลกกับการประสบความสำเร็จ
คือ สุขภาพที่แย่ลงทุกวัน นอนไม่เต็มอิ่ม เครียดและโมโหง่าย

    ผม นายไชยยันต์ ไชยยะ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ระดับ 8  ผมมีประสบการณ์โดยตรงจากการได้ดื่มน้ำ MRET มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี


    ผมเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546  ตลอดเวลาที่ทำงานอยู่นั้น ผมได้ใช้เวลาเกือบทั้งหมดทุ่มเทให้กับการทำงาน  ไม่ว่าจะเป็นงานสอนหนังสือ งานวิจัย อาจกล่าวได้ว่า ผมใช้เวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าอยู่ที่บ้านเสียอีก  แต่สิ่งที่ผมต้องแลกกับการประสบความสำเร็จด้านการทำงานก็คือ สุขภาพของผมที่ย่ำแย่ลงทุกวัน อันเนื่องมาจากการนอนไม่เป็นเวลา ความเครียด โภชนาการที่ไม่ดี และขาดการออกกำลังกาย

    จากการตรวจสุขภาพของผมในช่วงปี พ.ศ.2548-2551 ไม่เคยมีปีไหนเลยที่ค่าปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์จะต่ำกว่า 200  นอกจากนั้น ค่าปริมาณน้ำตาลและค่าความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งยังอยู่ในช่วงที่อันตรายอีกด้วย  แต่ผลตรวจร่างกายเหล่านั้น ยังไม่โหดร้ายเท่ากับสิ่งที่ร่างกายของผมตอบสนองต่อการดูแลสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง เช่น ผิวพรรณที่ไม่สดใสแห้งกร้าน  รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มทุกๆ เช้า ไม่ว่าจะนอนมานานกี่ชั่วโมงแล้วก็ตาม  สมรรถภาพร่างกายอ่อนแอ  ปวดเมื่อยง่าย  และที่สำคัญผมกลายเป็นคนเครียดและโมโหง่าย ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำงานอย่างรุนแรง


    จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ผมได้รับการแนะนำถึงเครื่องชนิดหนึ่ง ที่ใช้พลังงานสนามแม่เหล็กมาเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของน้ำได้ จากเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน  ก่อนหน้านั้นผมก็ได้พบเห็นมาบ้างทางรายการทีวี  ในความรู้สึกของผมช่วงนั้น รู้สึกว่าสินค้าที่โฆษณาทางเคเบิลทีวีนั้น ส่วนมากจะเป็นการหลอกลวง และสรรพคุณไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ ทำให้ในช่วงนั้นผมยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก
เพื่อนอาจารย์ท่านนั้นตัดสินใจซื้อ
เครื่อง MRET มาใช้ และได้กรุณาผลิตน้ำจากเครื่องดังกล่าวมาให้ผมทดลองดื่ม

    ถ้าไม่เจอกับตัวเอง นักวิชาการสายวิทยาศาสตร์อย่างผมคงไม่เชื่อ เพียงน้ำ 1 ขวด 1.5 ลิตร ที่เพื่อนอาจารย์ทำมาให้ดื่มในวันนั้น ทำให้คืนนั้นผมนอนหลับสนิทอย่างที่ไม่เป็นมานานแล้ว  นอกจากนั้นในรุ่งเช้าก็รู้สึกสดชื่น  ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหายไปหมดสิ้น  ผมรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในครั้งนั้น แต่คงยังสรุปผลใดๆ ไม่ได้หรอกครับ  มันอาจจะเป็นความบังเอิญพอดีก็ได้ ที่วันนั้นผมหลับสนิท
ดังนั้น สิ่งที่ผมทำต่อไปคือ โทรศัพท์ไปสั่ง
น้ำ MRET 24 ขวด  ตลอดเวลาที่ผมดื่มน้ำ MRET นั้น สิ่งที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปก็คือ การนอนหลับสนิท  เมื่อตื่นตอนเช้าก็จะรู้สึกได้ว่าสดชื่น  เหมือนร่างกายได้พักผ่อนจริงๆ สักที
เมื่อดื่มน้ำ MRET 24 ขวดนั้นหมด ผมตัดสินใจทันทีที่จะซื้อเครื่อง MRET โดยไม่ลังเล


    หลังจากนั้น ผมได้ดื่ม
น้ำ MRET มาโดยตลอด  ตลอดเวลาที่ผ่านมาสุขภาพร่างกายผมก็ดีขึ้นตามลำดับ  แน่นอน...น้ำ MRET ไม่ใช่ยาวิเศษ  สี่งที่เราต้องทำควบคู่กันไปคือ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  แต่จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถ้าหลังการออกกำลังกายของเราแต่ละครั้ง เราได้ดื่มน้ำที่มีโครงสร้างโมเลกุล ที่เหมาะสมต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย  เพราะนั่นจะเป็นแรงเสริมที่สำคัญ ที่จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง  เนื่องจากออกซิเจนจะสามารถเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตได้เร็วและทั่วถึง  ส่งผลให้ความเข้มข้นและความเป็นกรดด่างของโลหิตอยู่ในสภาวะสมดุล ซึ่งส่งผลต่อความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่น้อยลงไปด้วย
สิ่งที่ผมกล่าวมานี้ มิได้เกิดจากการสมมุติขึ้น หรือพยายามนำเสนอสิ่งที่เกินเลยข้อเท็จจริง  หากแต่เป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้จากหลักฐานทางการแพทย์สองปีล่าสุด ซึ่งอยู่ในช่วงที่ผมได้ดื่ม
น้ำ MRET พร้อมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

    ปัจจุบัน น้ำหนักผมลดลงกว่า 8 กิโลกรัม  ปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ก็ลดลงกว่าเดิม 40 เปอร์เซ็นต์  ค่าน้ำตาลและความเสี่ยงโรคมะเร็งก็ลดลงมากเช่นกัน
สิ่งที่ดีใจที่สุดคือ ผมยังทำงานหนักได้เหมือนเดิม โดยที่ไม่มีความเครียด  รู้สึกสบายในทุกๆ เช้าที่ตื่นขึ้นมา  ร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน  รวมทั้งคนในครอบครัวผมทุกคนที่ได้ดื่ม
น้ำ MRET ต่างก็พบสิ่งเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

    สิ่งที่ผมนำเสนอมานี้ มิได้ต้องการที่จะช่วยเพิ่มยอดขายใดๆ แก่ทางบริษัทผู้จำหน่ายเลย เพราะผมเองก็มิได้รับผลประโยชน์ใดเช่นกัน  แต่สิ่งที่ผมต้องการจะทำคือ แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งคงไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี ตามสภาพสังขารของเราจวบจนสิ้นอายุขัย


About Story

บทความในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็น และประสบการณ์ตรงของเจ้าของเรื่องแต่ละท่าน ภาพและข้อความต่างๆ ที่ปรากฎในเว็บไซต์ ผู้อ่านพึงใช้ดุลยพินิจในการอ่านด้วยตนเอง
ทางผู้จัดทำขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดรวมถึงภาพประกอบต่างๆ ห้ามมิให้ผู้ใดไปทำซ้ำ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร


About Reference

ขอขอบคุณบทความจาก "หนังสือฟังเขา (เธอ) เล่า น้ำแอคทิเวท ดีจริงหรือ ? ฉบับพิเศษ"
จัดพิมพ์โดย Health Channel Magazine
จัดจำหน่ายโดย K.K Publishing
ISBN : 978-974-496-190-7

Tagged under