วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี จวบจนสิ้นอายุขัย


ไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี จวบจนสิ้นอายุขัย

ไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี
จวบจนสิ้น
อายุขัย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไชยยันต์ ไชยยะ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพมหานคร

              
ผมใช้เวลาเกือบทั้งหมด
ทุ่มเทให้กับการทำงาน
แต่สิ่งที่ผมต้องแลกกับการประสบความสำเร็จ
คือ สุขภาพที่แย่ลงทุกวัน นอนไม่เต็มอิ่ม เครียดและโมโหง่าย

    ผม นายไชยยันต์ ไชยยะ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ระดับ 8  ผมมีประสบการณ์โดยตรงจากการได้ดื่มน้ำ MRET มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี


    ผมเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546  ตลอดเวลาที่ทำงานอยู่นั้น ผมได้ใช้เวลาเกือบทั้งหมดทุ่มเทให้กับการทำงาน  ไม่ว่าจะเป็นงานสอนหนังสือ งานวิจัย อาจกล่าวได้ว่า ผมใช้เวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าอยู่ที่บ้านเสียอีก  แต่สิ่งที่ผมต้องแลกกับการประสบความสำเร็จด้านการทำงานก็คือ สุขภาพของผมที่ย่ำแย่ลงทุกวัน อันเนื่องมาจากการนอนไม่เป็นเวลา ความเครียด โภชนาการที่ไม่ดี และขาดการออกกำลังกาย

    จากการตรวจสุขภาพของผมในช่วงปี พ.ศ.2548-2551 ไม่เคยมีปีไหนเลยที่ค่าปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์จะต่ำกว่า 200  นอกจากนั้น ค่าปริมาณน้ำตาลและค่าความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งยังอยู่ในช่วงที่อันตรายอีกด้วย  แต่ผลตรวจร่างกายเหล่านั้น ยังไม่โหดร้ายเท่ากับสิ่งที่ร่างกายของผมตอบสนองต่อการดูแลสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง เช่น ผิวพรรณที่ไม่สดใสแห้งกร้าน  รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มทุกๆ เช้า ไม่ว่าจะนอนมานานกี่ชั่วโมงแล้วก็ตาม  สมรรถภาพร่างกายอ่อนแอ  ปวดเมื่อยง่าย  และที่สำคัญผมกลายเป็นคนเครียดและโมโหง่าย ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำงานอย่างรุนแรง


    จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ผมได้รับการแนะนำถึงเครื่องชนิดหนึ่ง ที่ใช้พลังงานสนามแม่เหล็กมาเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของน้ำได้ จากเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน  ก่อนหน้านั้นผมก็ได้พบเห็นมาบ้างทางรายการทีวี  ในความรู้สึกของผมช่วงนั้น รู้สึกว่าสินค้าที่โฆษณาทางเคเบิลทีวีนั้น ส่วนมากจะเป็นการหลอกลวง และสรรพคุณไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ ทำให้ในช่วงนั้นผมยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก
เพื่อนอาจารย์ท่านนั้นตัดสินใจซื้อ
เครื่อง MRET มาใช้ และได้กรุณาผลิตน้ำจากเครื่องดังกล่าวมาให้ผมทดลองดื่ม

    ถ้าไม่เจอกับตัวเอง นักวิชาการสายวิทยาศาสตร์อย่างผมคงไม่เชื่อ เพียงน้ำ 1 ขวด 1.5 ลิตร ที่เพื่อนอาจารย์ทำมาให้ดื่มในวันนั้น ทำให้คืนนั้นผมนอนหลับสนิทอย่างที่ไม่เป็นมานานแล้ว  นอกจากนั้นในรุ่งเช้าก็รู้สึกสดชื่น  ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหายไปหมดสิ้น  ผมรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในครั้งนั้น แต่คงยังสรุปผลใดๆ ไม่ได้หรอกครับ  มันอาจจะเป็นความบังเอิญพอดีก็ได้ ที่วันนั้นผมหลับสนิท
ดังนั้น สิ่งที่ผมทำต่อไปคือ โทรศัพท์ไปสั่ง
น้ำ MRET 24 ขวด  ตลอดเวลาที่ผมดื่มน้ำ MRET นั้น สิ่งที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปก็คือ การนอนหลับสนิท  เมื่อตื่นตอนเช้าก็จะรู้สึกได้ว่าสดชื่น  เหมือนร่างกายได้พักผ่อนจริงๆ สักที
เมื่อดื่มน้ำ MRET 24 ขวดนั้นหมด ผมตัดสินใจทันทีที่จะซื้อเครื่อง MRET โดยไม่ลังเล


    หลังจากนั้น ผมได้ดื่ม
น้ำ MRET มาโดยตลอด  ตลอดเวลาที่ผ่านมาสุขภาพร่างกายผมก็ดีขึ้นตามลำดับ  แน่นอน...น้ำ MRET ไม่ใช่ยาวิเศษ  สี่งที่เราต้องทำควบคู่กันไปคือ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  แต่จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถ้าหลังการออกกำลังกายของเราแต่ละครั้ง เราได้ดื่มน้ำที่มีโครงสร้างโมเลกุล ที่เหมาะสมต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย  เพราะนั่นจะเป็นแรงเสริมที่สำคัญ ที่จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง  เนื่องจากออกซิเจนจะสามารถเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตได้เร็วและทั่วถึง  ส่งผลให้ความเข้มข้นและความเป็นกรดด่างของโลหิตอยู่ในสภาวะสมดุล ซึ่งส่งผลต่อความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งที่น้อยลงไปด้วย
สิ่งที่ผมกล่าวมานี้ มิได้เกิดจากการสมมุติขึ้น หรือพยายามนำเสนอสิ่งที่เกินเลยข้อเท็จจริง  หากแต่เป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้จากหลักฐานทางการแพทย์สองปีล่าสุด ซึ่งอยู่ในช่วงที่ผมได้ดื่ม
น้ำ MRET พร้อมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

    ปัจจุบัน น้ำหนักผมลดลงกว่า 8 กิโลกรัม  ปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ก็ลดลงกว่าเดิม 40 เปอร์เซ็นต์  ค่าน้ำตาลและความเสี่ยงโรคมะเร็งก็ลดลงมากเช่นกัน
สิ่งที่ดีใจที่สุดคือ ผมยังทำงานหนักได้เหมือนเดิม โดยที่ไม่มีความเครียด  รู้สึกสบายในทุกๆ เช้าที่ตื่นขึ้นมา  ร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน  รวมทั้งคนในครอบครัวผมทุกคนที่ได้ดื่ม
น้ำ MRET ต่างก็พบสิ่งเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

    สิ่งที่ผมนำเสนอมานี้ มิได้ต้องการที่จะช่วยเพิ่มยอดขายใดๆ แก่ทางบริษัทผู้จำหน่ายเลย เพราะผมเองก็มิได้รับผลประโยชน์ใดเช่นกัน  แต่สิ่งที่ผมต้องการจะทำคือ แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งคงไม่มีอะไรที่ประเสริฐเท่ากับการที่เรามีสุขภาพที่ดี ตามสภาพสังขารของเราจวบจนสิ้นอายุขัย


About Story

บทความในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็น และประสบการณ์ตรงของเจ้าของเรื่องแต่ละท่าน ภาพและข้อความต่างๆ ที่ปรากฎในเว็บไซต์ ผู้อ่านพึงใช้ดุลยพินิจในการอ่านด้วยตนเอง
ทางผู้จัดทำขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดรวมถึงภาพประกอบต่างๆ ห้ามมิให้ผู้ใดไปทำซ้ำ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร


About Reference

ขอขอบคุณบทความจาก "หนังสือฟังเขา (เธอ) เล่า น้ำแอคทิเวท ดีจริงหรือ ? ฉบับพิเศษ"
จัดพิมพ์โดย Health Channel Magazine
จัดจำหน่ายโดย K.K Publishing
ISBN : 978-974-496-190-7

Tagged under 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น